ทั้งนี้ ดอร์น่า สปอร์ตยังได้ประกาศปฏิทินการแข่งขันโมโตจีพี ฤดูกาล ๒๐๒๓ ออกมาเป็นที่เรียบร้อย โดยสนามประเทศไทยถูกบรรจุให้เป็นสนามที่ ๑๘ ของฤดูกาล จะทำการแข่งขันระหว่างวันที่ ๒๗-๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๖ ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ และจะจัดต่อเนื่องไปอีก ๕ ปีเป็นอย่างน้อยนับจากนี้ ถือเป็นกุญแจสำคัญที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของประเทศ ตามแนวนโยบาย Sports Tourism อย่างแท้จริง
เยี่ยมชมบูธสำหรับงาน Moto GP 2022 Soft Power ของประเทศไทยที่จะถ่ายทอดไปยังต่างประเทศ
30 September 2022Team Honda Asia เปิดตัวนักแข่ง Moto 2 พร้อมท้าชิงความยิ่งใหญ่ วันอาทิตย์นี้
4 October 2022ฝ่ายจัดฯ เผย ปีนี้มีผู้เข้าร่วมเกือบ ๒ แสนคน สร้างรายได้โดยรวม ๔,๐๔๘ ล้านบาท ในการแข่งขันโมโตจีพี
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดงานและมอบรางวัลการแข่งขันรถจักยานยนต์ชิงแชมป์โลกรายการ โมโตจีพี “โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ ๒๐๒๒” โดยมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, ดร. ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย, นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย ตลอดจนผู้บริหารจากภาครัฐและเอกชน ร่วมงาน เมื่อวันที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๖๕ ที่ผ่านมา
ผลการแข่งขันปรากฏว่า มิเกล โอลิเวียรา ยอดนักบิดชาวโปรตุเกสจาก KTM นักบิดที่กูรูยกให้เป็นเทพแห่งสายฝน เข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ ๑ ตามด้วย แจ็ค มิลเลอร์ นักบิดชาวออสเตรเลียจาก Ducati Lenovo Team ในอันดับที่ ๒ และ ฟรานเชสโก บัญญายา นักบิดสังกัด Ducati Lenovo Team ในอันดับที่ ๓ ส่วน มาร์ค มาร์เกซ แชมป์โลก ๘ สมัยจาก Repsol Honda Team คว้าอันดับที่ ๕
“ทุกครั้งที่ฝนตกผมก็ไม่บ่น เพราะผมขับได้เร็วมาก สำหรับเรซนี้ตอนที่เริ่มฝนตก ทำให้ผมนึกถึงสนามที่อินโดนีเซีย” มิเกลกล่าวถึงการคว้าชัยที่บุรีรัมย์
“ผมดีใจมากที่เราคว้าชัยชนะได้ในช่วงท้ายฤดูกาล แม้ว่าจะอยู่ในสภาพอากาศที่เราไม่ได้ต้องการมากนัก แต่ผมก็รู้สึกดีใจกับชัยชนะที่เกิดขึ้นในวันนี้”
ส่วนการแข่งขันในปีนี้ จากการสำรวจเบื้องต้นของกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่าตลอด ๓ วันของการแข่งขันโมโตจีพี มีผู้เข้าร่วมกว่า ๑๗๘,๔๖๓ คน และมีผู้ชมการถ่ายทอดสดทั่วโลกมากกว่า ๘๐๐ ล้านคน และสร้างรายได้โดยรวมในจังหวัดบุรีรัมย์และจังหวัดอื่นๆ ประมาณ ๔,๐๔๘ ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการใช้จ่ายเข้าร่วมงานประมาณ ๓,๕๙๒ ล้านบาท และเป็นการลงทุนภาครัฐและเอกชนประมาณ ๔๕๖ ล้านบาท