
กกท. ร่วมขับเคลื่อนแบดไทยแลนด์ โอเพ่น
25 September 2025
โมโตครอสอาชีพบันไดส่งนักบิดทางฝุ่นมุ่งเวทีใหญ่ลุยศึกโลก
25 September 2025‘จีโน่’ มือ 1 โลก จากกอล์ฟอาชีพในไทยสู่แอลพีจีเอ รายได้มหาศาล

ยังคงเดินหน้าไล่ล่าความสำเร็จแบบไม่ลดละ สำหรับ “โปรจีน” อาฒยา ฐิติกุล หรือ “จีโน่” ในวัย 22 ปี โดย “โปรจีน” ก้าวขึ้นครองบัลลังก์เบอร์ 1 ของโลกอย่างสมภาคภูมิ จากฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมและคงเส้นคงวาสุด ๆ
.
อาฒยา เริ่มเล่นกอล์ฟตอนอายุ 6 ปี หลังเล่นเพียง 6 เดือน คว้าแชมป์กอล์ฟบางกอก พาร์ 3 ก่อนเริ่มฉายแววกวาดแชมป์ในประเทศไทยเป็นว่าเล่น
.
ปี 2017 อาฒยา จารึกชื่อคว้าแชมป์อาชีพ เลดีส์ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนชิพ ที่จังหวัดชลบุรี ขณะนั้นเจ้าตัวอายุเพียง 14 ปี 4 เดือน 19 วัน แชมป์หนนั้น ช่วยจารึกชื่อของ “อาฒยา” เป็นนักกอล์ฟสมัครเล่นอายุน้อยที่สุดในโลกที่ได้แชมป์อาชีพ ซึ่งสื่อกีฬาต่างชาติต่างก็หยิบยกเรื่องนี้มาตีข่าวจนชื่อของ อาฒยา ฐิติกุล ยิ่งโด่งดังและเป็นที่รู้จัก
.
“อาฒยา” ยังกวาดแชมป์ไทยแอลพีจีเอ ทัวร์ ซึ่งสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพสตรี ร่วมกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) โดยสำนักงานคณะกรรมการกีฬาอาชีพ และภาคเอกชนจัดขึ้นเป็นว่าเล่น ในปี 2020 อาฒยา ได้แชมป์ 4 จากทั้งหมด 9 รายการที่จัดแข่ง ก่อนขยับขึ้นมาสร้างผลงานในฐานะโปรอาชีพกับทัวร์ที่สูงขึ้นบนเวทีนานาชาติ
.
“จีโน่” ที่เทิร์นโปรในปี 2022 มีผลงานและความสำเร็จระดับอาชีพในแอลพีจีเอ ทัวร์ ซึ่งจับต้องได้ จากการคว้าแชมป์มาแล้วถึง 5 รายการ ได้แก่ เจทีบีซี คลาสสิก ปี 2022, วอลมาร์ต เอ็นดับเบิลยู อาร์คันซอ แชมเปียนชิพ ปี 2023, ทีมดาว แชมเปียนชิพ กับ ซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ ปี 2024 และล่าสุด เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ในรายการ มิซูโฮะ อเมริกาส์ โอเพ่น
.
พร้อมกันนี้ ยังมีสถิติจบท็อปเทน หรือติด 1 ใน 10 รวมทั้งสิ้น 52 รายการ นับเฉพาะปี 2025 จบท็อปเทนถึง 11 รายการ จาก 17 รายการที่เล่น แสดงให้เห็นถึงการเป็นนักกอล์ฟที่มีฟอร์มการเล่นที่สม่ำเสมอมากที่สุดในแอลพีจีเอ ทัวร์ เวลานี้
.
นับตั้งแต่เทิร์นโปรเมื่อปี 2022 “โปรจีน” ยังสะสมเงินรางวัลแล้วกว่า 12.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 411 ล้านบาท ซึ่งในฤดูกาล 2025 ที่จะปิดฉากในเดือนธันวาคมนี้ ยังมีการแข่งขันอีกหลายรายการให้เจ้าตัวได้แสดงความสามารถ พร้อมไล่ล่าเงินรางวัลและความสำเร็จ
.
เงินรางวัล “โปรจีน” ในการแข่งขันกอล์ฟ แอลพีจีเอ ทัวร์
.
ปี 2022 : 2.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 67 ล้านบาท)
ปี 2023 : 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 47 ล้านบาท)
ปี 2024 : 6.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 194 ล้านบาท)
ปี 2025 (ยังไม่จบฤดูกาล) : 3.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 99 ล้านบาท)
